บล็อกของกาญจนา นิลนวล
วัตถุประสงค์ของบล็อก
บล็อกนี้ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้แต่ละผู้เข้าอบรมมาตรฐานวิชาชีพครู คุรุสภามาตรฐานที่ 8
วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559
คุณมีครูในดวงใจแล้วหรือยัง?/ดร.แพง ชินพงศ์
แม้ว่าระบบการศึกษาในโลกยุคปัจจุบันจะมีการสนับสนุนให้ใช้สื่อสารสนเทศต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต แท็บเล็ต มาใช้ในการเรียนการสอนมากขึ้น เพราะเห็นว่าผู้เรียนสามารถใช้สื่อเหล่านี้ได้ตลอดเวลา อยากจะเรียนหรือค้นหาข้อมูลอะไรก็ทำได้ทันใจ จะทำที่ไหน เวลาใดก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การศึกษาแบบนี้ก็มีข้อเสียหากเทียบกับการที่ผู้เรียนได้เรียนในห้องเรียนที่มีครูสอนตามปกติ เพราะการศึกษาผ่านเทคโนโลยีโดยตรงนั้น ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถสื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกของการเรียนรู้ที่แท้จริงได้ อีกทั้งการเรียนรู้ศึกษาด้วยตนเองโดยปราศจากครู ซึ่งเป็นบุคคลผู้คอยอธิบายและชี้แนะนั้นอาจทำให้ผู้เรียนไม่ได้เข้าถึงการเรียนอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นยุคอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ครูก็ยังเป็นอาชีพที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อสังคมของเรา เนื่องในวาระวันครู ผู้เขียนจึงขอเขียนถึงคุณลักษณะของครูที่ดี ดังนี้
1.ครูเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้
หน้าที่นี้ถือเป็นหน้าที่หลักหน้าที่แรกของครูในการสอนให้ลูกศิษย์มีความรู้ และความเข้าใจในวิชาการทั้งหลาย โดยมุ่งเน้นให้ลูกศิษย์สามารถนำความรู้ทางด้านวิชาการมาพัฒนาสติปัญญา ทักษะความคิด และรู้จักวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญ ก็คือ ครูต้องเป็นผู้ที่ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและพัฒนาตนเองให้มีความทันสมัยต่อระบบการศึกษาของโลกยุคปัจจุบันอยู่เสมอด้วยเพื่อถ่ายทอดให้ผู้เรียนได้อย่างเท่าทันสถานการณ์
2.ครูเป็นผู้อบรมให้ลูกศิษย์เป็นคนดี
นอกจากครูจะให้ความรู้ทางวิชาการแก่ลูกศิษย์แล้ว ครูต้องอบรมสั่งสอน ตักเตือนว่ากล่าวเมื่อพบว่าลูกศิษย์มีความประพฤติไม่เหมาะสม รวมทั้งตัวครูเองก็ต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกศิษย์ด้วย เช่น มีกิริยาและวาจา และการแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่เล่นการพนันหรือตั้งวงเหล้าในโรงเรียน ไม่มีเรื่องลวนลาม ชู้สาว หรือทำผิดทางเพศกับลูกศิษย์ เพื่อเมื่อลูกศิษย์เห็นแบบอย่างที่ดีที่ครูทำแล้วก็จะได้ทำตาม ซึ่งจะมีผลให้ลูกศิษย์เป็นผู้ประพฤติดี
3.ครูเป็นผู้มีความรัก ความเข้าใจ ให้การสนับสนุนและให้อภัยลูกศิษย์อยู่เสมอ
นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่ออาชีพครู เพราะลูกศิษย์แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของครอบครัว สติปัญญา ความสามารถ และความถนัดของแต่ละคน ดังนั้น ครูต้องเป็นสังเกต ทุ่มเท และเอาใจใส่ต่อลูกศิษย์แต่ละคนว่ามีความเด่นและความด้อยในด้านใด เช่น ในเรื่องการเรียน ถ้าศิษย์คนใดมีความสามารถทางด้านไหนก็ควรสนับสนุนให้เขาได้มีโอกาสพัฒนาความสามารถที่มีมากยิ่งขึ้น และในทางตรงกันข้ามถ้าพบว่าลูกศิษย์มีความด้อยในด้านใดก็ต้องช่วยเหลือให้เขาพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9560000005032
วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
สรุปลักษณะของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
- Active Learning เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนเป็นผู้กระทำหรือปฏิบัติด้วยตนเองด้วยความกระตือรือร้น เช่น ได้คิด ค้นคว้า ทดลองรายงาน ทำโครงการ สัมภาษณ์ แก้ปัญหา ฯลฯ ได้ใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ ทำให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างแท้จริง ผู้สอนทำหน้าที่เตรียมการจัดบรรยากาศการเรียนรู้ จัดสื่อสิ่งเร้าเสริมแรงให้คำปรึกษาและสรุปสาระการเรียนรู้ร่วมกัน
- Construct เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนได้ค้นพบสาระสำคัญหรือองค์การความรู้ใหม่ด้วยตนเอง อันเกิดจากการได้ศึกษาค้นคว้าทดลอง แลกเปลี่ยนเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน รวมทั้งทำให้ผู้เรียนรักการอ่าน รักการศึกษาค้นคว้าเกิดทักษะในการแสวงหาความรู้ เห็นความสำคัญของการเรียนรู้ ซึ่งนำไปสู่การเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ (Learning Man) ที่พึงประสงค์
- Resource เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนได้เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ที่หลากหลายทั้งบุคคลและเครื่องมือทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ผู้เรียนได้สัมผัสและสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทั้งที่เป็นมนุษย์ (เช่น ชุมชน ครอบครัว องค์กรต่างๆ) ธรรมชาติและเทคโนโลยี ตามหลักการที่ว่า “การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานการณ์)”
- Thinking เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิด ผู้เรียนได้ฝึกวิธีคิดในหลายลักษณะ เช่น คิดคล่อง คิดหลากหลาย คิดละเอียด คิดชัดเจน คิดถูก ทางคิดกว้าง คิดลึกซึ้ง คิดไกล คิดอย่างมีเหตุผล เป็นต้น การฝึกให้ผู้เรียนได้คิดอยู่เสมอในลักษณะต่างๆ จะทำให้ผู้เรียนเป็นคนคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น คิดอย่างรอบคอบมีเหตุผล มีวิจารณญาณ ในการคิด มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ที่จะเลือกรับและปฏิเสธข้อมูล ข่าวสารต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนสามารถแสดงความคิดเห็นออกได้อย่างชัดเจนและมี เหตุผลอันเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
- Happiness เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนเรียนอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นความสุขที่เกิดจาก 1) ผู้เรียนได้เรียนในสิ่งที่ตนชอบหรือสนใจ ทำให้เกิดแรงจูงใจในการใฝ่รู้ ท้าทาย อยากค้นคว้า อยากแสดงความสามารถและให้ใช้ศักยภาพของตนอย่างเต็มที่ 2) การมีปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน มีลักษณะเป็นกัลยาณมิตร มีการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน มีกิจกรรมร่วมด้วยช่วยกัน ทำให้ผู้เรียนรู้สึกมีความสุขและสนุกกับการเรียน
- Participation เป็นกิจกรรมที่เน้นการให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม ตั้งแต่การวางแผนกำหนดงาน วางเป้าหมายร่วมกัน และมีโอกาสเลือกทำงานหรือศึกษาค้นคว้าในเรื่องที่ตรงกับความถนัดความสามารถ ความสนใจ ของตนเอง ทำให้ผู้เรียนเรียนด้วยความกระตือรือร้น มองเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรียนและสามารถ ประยุกต์ความรู้นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง
- Individualization เป็นกิจกรรมที่ผู้สอนให้ความสำคัญแก่ผู้เรียนในความเป็นเอกัตบุคคล ผู้สอนต้องยอมรับในความสามารถ ความคิดเห็น ความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพมากกว่าเปรียบเทียบแข่งขันระหว่างกันโดยมีความเชื่อมั่นผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ และมีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
- Good Habit เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนได้พัฒนาคุณลักษณะนิสัยที่ดีงาม เช่น ความรับผิดชอบ ความเมตตา กรุณา ความมีน้ำใจ ความขยัน ความมีระเบียบวินัย ความเสียสละ ฯลฯ และ ลักษณะนิสัยในการทำงานอย่างเป็นกระบวนการการทำงานร่วมกับผู้อื่น การยอมรับผู้อื่น และ การเห็นคุณค่าของงาน เป็นต้น
- Self Evaluation เป็นกิจกรรมที่เน้นการประเมินตนเอง เดิมผู้สอนเป็นผู้ประเมินฝ่ายเดียว แต่การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเองอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจตนเองได้ชัดเจนขึ้น รุ้จุดเด่นจุดด้อยและพร้อมที่จะปรับปรุงหรือพัฒนาตนเองให้เหมาะสมยิ่งขึ้น การประเมินในส่วนนี้เป็นการประเมินตามสภาพจริงและอาจใช้แฟ้มสะสมผลงานช่วย
การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
สุขภาพดีเราต้องดูแลตนเอง นอกจากอาหาร อากาศบริสุทธิ์ และจิตใจสบายไม่เครียดแล้ว การออกกำลังให้สุขภาพดีนับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แต่มักจะมีข้อแก้ตัวบ่อยๆว่า ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ความจริงแล้วไม่ต้องใช้เวลามากมายเพียงแค่วันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็พอ จะเกิดผลดีต่อหัวใจและปอด และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่มากมายหรือเครื่องมือราคาแพงอะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว วิธีดีที่สุดคือการเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ ในกรณีที่สิ่งแวดล้อมของหมู่บ้านไม่สะดวกหรือเสี่ยงกับอุบัติเหตุ อาจใช้วิธีถีบจักรยานอยู่กับที่หรือเดินบนสายพานในขณะที่ฟังข่าวหรือดูละคร โทรทัศน์ ต้องถือว่าการออกกำลังกายเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน
สุขภาพดีเราต้องดูแลตนเอง นอกจากอาหาร อากาศบริสุทธิ์ และจิตใจสบายไม่เครียดแล้ว การออกกำลังให้สุขภาพดีนับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แต่มักจะมีข้อแก้ตัวบ่อยๆว่า ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ความจริงแล้วไม่ต้องใช้เวลามากมายเพียงแค่วันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็พอ จะเกิดผลดีต่อหัวใจและปอด และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่มากมายหรือเครื่องมือราคาแพงอะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว วิธีดีที่สุดคือการเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ ในกรณีที่สิ่งแวดล้อมของหมู่บ้านไม่สะดวกหรือเสี่ยงกับอุบัติเหตุ อาจใช้วิธีถีบจักรยานอยู่กับที่หรือเดินบนสายพานในขณะที่ฟังข่าวหรือดูละคร โทรทัศน์ ต้องถือว่าการออกกำลังกายเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน
ผลดีของการออกกำลังกาย
- การออกกำลังจะทำให้รูปร่างดูดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ลดไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยลดน้ำหนัก
- ป้องกันโรคหัวใจ หัวใจแข็งแรงขึ้น ลดโอกาสเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และกล้ามเนื้อหัวใจตาย
- ความดันโลหิตลดลง ลดโอกาสเกิดความดันโลหิตสูง และเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบตัน
- ป้องกันโรคอ้วน
- ป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงขึ้น
- ป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน
- ป้องกันโรคภูมิแพ้
- เพิ่มภูมิต้านทานโรค
- ลดไขมัน ในเลือด ทำให้โคเลสเตอโรล, ไตรกลีเซอไรด์, LDLลดลง
- เพิ่มไขมันดี ในเลือด คือ HDL ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- ทำให้ร่างกายสดชื่น ลดความเครียด จากการที่สมองผลิตฮอร์โมนชนิดหนึ่งชื่อ เอนดอร์ฟิน ออกมาในขณะออกกำลังกาย ฮอร์โมนนี้มีลักษณะคล้ายมอร์ฟีน จึงทำให้รู้สึกเป็นสุข
- ช่วยให้นอนหลับสบายและหลับสนิท
- ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ระบบขับถ่ายดีขึ้น ช่วยให้ท้องไม่ผูก เพราะลำไส้มีการขยับตัวดีขึ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)